อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้นนับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งกลับเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องมาจากความคาดหวังว่าการลดภาษีและภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจะทำให้รัฐบาลกู้ยืมเงินมากขึ้น และผลักดันให้ขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์มองว่านโยบายที่ทรัมป์เสนอจะกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และอาจขัดขวางการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ความคาดหวังเดียวกันนี้ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่การพุ่งขึ้นกลับหยุดชะงักลงชั่วข้ามคืน เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงขึ้น
Kyle Rodda นักวิเคราะห์ตลาดการเงินอาวุโสจาก Capital.com กล่าวว่า "ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของการค้าของทรัมป์ ซึ่งแก่นแท้แล้วก็คือการใช้จ่ายเกินดุลที่เพิ่มขึ้น"
“อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้พิสูจน์แล้วในกรณีการล่มสลายของตลาดอื่นๆ ในที่สุดสงครามแย่งชิงก็เกิดขึ้นระหว่างหุ้นและพันธบัตร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปราศจากความเสี่ยงที่สูงขึ้นทำให้การประเมินมูลค่าลดลง”